image

พาไปวัด

image
image
image

วัดภุมรินทร์ราชปักษี

image
วัดภุมรินทร์ราชปักษี

#วัดภุมรินทร์ราชปักษี (วัดร้าง) ภายในอุโบสถและวิหาร เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงงานสำคัญเท่านั้น!!
 วันนี้ผมเก็บทุกรายละเอียดแบบจัดเต็มมาให้ชมกันครับ 
 

บริเวณใกล้ปากคลองบางกอกน้อย เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีมานานตั้งแต่สมัยอยุธยา 
มีการตั้งบ้านเรือนและสร้างวัดขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าใครขับรถผ่านไปผ่านมาแถวๆ
 เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ก็คงจะเห็นโรงเรียนมัธยมวัดดุสิดาราม ผมอยากจะให้ทุกๆท่าน 
ลองได้เลี้ยวรถเข้ามาในซอยทางที่จะไปวัดดุสิดาราม เมื่อเข้ามาแล้วทางขวามือของท่านจะเห็นอุโบสถ 
และวิหารเก่าแก่ ตั้งตระหง่านอยู่ด้านข้างที่นั่นเคยเป็นวัดมาก่อนครับ แต่ปัจจุบันก็เป็นวัด(ร้าง)
ที่มีชื่อที่ไพเราะมากๆคือ "วัดภุมรินทร์ราชปักษี" ครับ

ประวัติการสร้างวัดภุมรินทร์ราชปักษีนั้นไม่มีหลักฐานที่ชัดแน่นอน แต่ข้อมูลจากวัดดุสิดาราม 
มีระบุไว้ว่าในสมัยรัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นั้นได้รวมวัดภุมรินทร์ราชปักษีแห่งนี้ยุบรวมเข้ากับวัดดุสิดาราม
เนื่องจากพบว่ามีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว

แม้ว่าปัจจุบันนี้วัดภุมรินทร์ราชปักษีจะเป็นวัดร้างก็ตาม แต่ภายในวัดมีสิ่งที่สำคัญ เป็นศิลปกรรมระดับช่างหลวงอยู่มาก
เราจะเห็นอุโบสถ และวิหาร ตั้งอยู่คู่กัน คั่นกลางด้วยหอไตรกลางน้ำขนาดย่อมๆ ทั้งอุโบสถและวิหารของวัดนั้นมีลักษณะคล้ายกันเลยครับ 
ตอนแรกๆเมื่อได้เดินชมรอบๆก็แยกไม่ออกว่าหลังไหนคืออุโบสถ หลังไหนวิหาร แต่พอลองสังเกตดีๆ 
เราจะพบว่าอาคารด้านทิศตะวันออกนั้นจะมีฐานเสมาล้อมรอบอยู่ ซึ่งอาคารหลังนี้ก็คืออุโบสถนั่นเองครับ ถ้าท่านใดมาก็ลองสังเกตกันดูนะครับ
 

อุโบสถหลังนี้สวยงามมากนะครับ ส่วนฐานโค้งแอ่นคล้ายเรือสำเภา ลักษณะแบบอยุธยาตอนปลาย ที่หน้าบันประดับปูนปั้นติดกระจก
 ด้านบนสุดนั้นทำเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ ถัดลงมาเป็นรูปนกยูงรำแพนหางสวยงามมาก 
ซึ่งการประดับรูปนกยูงบนหน้าบันอุโบสถนั้นไม่ค่อยพบเห็นเท่าไหร่นะครับ เดินเข้าไปในอุโบสถจะพบพระพุทธรูปยืนสามองค์
 ด้านหลังเจาะเป็นช่องลักษณะเป็นซุ้มประดิษฐานองค์พระ พระพุทธรูปยืนทั้งสามองค์นั้น องค์กลางสุดเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ
 องค์ด้านซ้ายของเราเป็นปางอุ้มบาตร และองค์ด้านขวาสุดเป็นปางถวายเนตร 
ดูจากศิลปกรรมของพระพุทธรูปแล้วส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะมีผู้นำมาถวายในช่วงหลังนี้

ภาพจิตรกรรมฝาผนังต่างๆภายในอุโบสถนี้ หลุดล่อน เลือนหายออกไปมากแล้วครับ ผนังฝั่งตรงข้ามพระประธานเขียนภาพพระพุทธเจ้าผจญมาร 
มีพระแม่ธรณีบีบมวยผมด้วย แต่จางหายไปจนเกือบหมดเป็นที่น่าเสียดายมากๆ

ถัดจากอุโบสถคือวิหาร ผนังด้านนอกทิศตะวันตกมีพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อดำ" สมัยก่อนเป็นสีดำทั้งองค์
 แต่ปัจจุบันมีการบูรณะปิดทองทั้งอค์ทำให้พระกลายเป็นสีทองไปแล้ว หลวงพ่อดำองค์นี้ชาวบ้านที่นี่เล่ากันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก 
มีปัญหาเดือดร้อนอะไรก็จะมาขอพรกันประจำ บริเวณหน้าบันด้านบนเหนือพระพุทธรูปมีลายปูนปั้นประดับรูปนารายณ์ทรงครุฑสวยงามดูแล้วเพลินตาจริง
 

เดินเข้าไปในวิหารจะพบความอลังการสวยงามของทั้งจิตรกรรม และองค์พระประธาน พระประธานนั้นเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
องค์พระนั้นเป็นศิลาแดงแกะสลักปัจจุบันมีการบูรณะปิดทองคำแท้ทั้งอค์ ด้านข้างทั้งสองมีพระอัครสาวกนั่งพนมมือ
ซึ่งจากลักษณะการแกะสลักพระด้วยศิลาแดงนั้น สามารถ specify ยุคสมัยขององค์พระได้ว่าน่าจะสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น - กลางเลยทีเดียว

และที่โดดเด่นเป็นที่สุดของวิหารหลังนี้ก็คือภาพเขียนสีจิตกรรมฝาผนังด้านหลังพระประธาน 
ที่วาดเป็นรูปพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ภายหลังจากที่ทรงโปรดแสดงธรรมพระพุทธมารดา

ภาพจิตรกรรมที่ผนังสกัดตรงข้ามพระประธาน วาดเป็นรูปบ้านเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเปนเมืองๆใด
อาจจะเป็นหนึ่งฉากในพุทธประวัติก็เป็นได้ ส่วนผนังทั้งสองข้างนั้นวาดเป็สนรูปเทพชุมนุม นั่งประนมมือเรียงกันหันหน้าไปทางพระประธาน
 อยู่เหนือช่องหน้าต่างของวิหาร เป็นภาพที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจิตกรรมทั้งหมดนี้สันนิษฐานว่าวาดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๓ - ๔ ด้วยรูปแบบการใช้สี 
และเทคนิคการวาด ซึ่งในภาพจิตกรรมนั้นมีรูปอาคารแบบจีนผสมอยู่ด้วย และในบางรูปผมแอบสังเกตเห็นภาพของชาวต่างชาติผสมอยู่กับชาวบ้านของเรา
 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นที่นิยมวาดในสมัยร.๓ เรื่อยมานั่นเอง

เดินชมวัดกันมาถึงตรงนี้แล้วโดยส่วนตัวผมเองคิดว่าวัดภุมรินทร์ราชปักษีคงเคยสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเรื่อยมาจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ 
โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ รวมไปถึงบูรณะปรับปรุงมาโดยตลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัดนี้แต่ก่อนคงไม่ใช่วัดสามัญธรรมดา 
แต่จะต้องเป็นวัดที่มีความสำคัญมากๆอย่างแน่นอนครับ

ไปชมภาพสวยๆกันนะครับ ภาพเยอะสักหน่อย เพราะนานๆทางวัดจะเปิดให้เข้าชม ผมสร้างทำเป็นอัลบัมไว้ให้ชมกัน 
ข้อมูลต่างๆถ้าผิดถูกอย่างไรก็ชี้แนะได้นะครับ ขอบคุณแฟนๆเพจทุกท่านที่เข้ามาชมครับ