image

พาไปวัด

image
image

พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ(วัดหน้าพระเมรุ)

image
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ(วัดหน้าพระเมรุ)

พระผู้มีมีชัยชนะเหนือหมู่มาร ทั้ง 3 โลก

 พระประธานในพระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (เป็นตอนที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสำเร็จพระอรหันต์นิ้วจรดลงไปที่พื้น เพื่อให้พระแม่ธรณีเป็นพยานว่าพระองค์ตรัสรู้แล้ว) ทรงเครื่องใหญ่มหาจักรพรรดิ์ หล่อด้วยทองสำริดลงรักปิดทอง หน้าตักกว้างประมาณ 4.5 เมตร สูงประมาณ 6 เมตร พระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาวางคว่ำบนพระชานุ (เข่า)

รูปแบบพุทธศิลป์เป็นการผสมผสานคติความเชื่อแบบ “เทวราชา” ของขอม กับแบบ “ธรรมราชา” ของกรุงศรีอยุธยา โดยออกแบบองค์พระให้มีเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์ รูปแบบจึงออกมาเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ ซึ่งเครื่องทรงของพระพุทธรูปนั้นมีลวดลายละเอียดอ่อนช้อย งดงามหาที่ติไม่ได้

 พระพักตร์ของพระพุทธรูปมีลักษณะค่อนข้างดุดัน พระเนตรยาวเรียว พระนาสิกโด่งงุ้ม และพระโอษฐ์กว้าง เป็นพระพักตร์ที่เป็นเอกลักษณ์

องค์หลวงพ่อพุทธนิมิตพิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น โดยพระองค์อินทร์ ในสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (ในรัชการที่ 10) แห่งกรุงศรีอยุธยา

 สันนิษฐานกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และ วัดหน้าพระเมรุแห่งนี้ยังได้รับการบูรณะอีกครั้งในสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ

ย้อนไปเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง วัดหน้าพระเมรุนั้นรอดพ้นจากการถูกทำลายจากพม่า เนื่องมาจากตั้งอยู่ใกล้พระราชวังหลวง และพม่ายังได้ใช้วัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งกองทัพ ทำให้วัดหน้าพระเมรุ และ องค์หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถยังมีสภาพสมบูรณ์สวยงามจนถึงปัจจุบัน

เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าอะลองพญาของพม่ามาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อพ.ศ.2303 พม่าได้ยกเอาปืนใหญ่มาตั้งที่วัดพระเมรุราชิการาม กับวัดหัสดาวาส (วัดช้าง) พระเจ้าอะลองพญาทรงจุดปืนใหญ่หมายจะทำลายกรุงศรีอยุธยาด้วยพระองค์เอง แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ บังเกิดความอัศจรรย์ขึ้น เมื่อพระองค์จุดชนวน ปืนใหญ่นั้นเกิดระเบิดขึ้นปากกระบอกปืนแตก สะเก็ดระเบิดลุกเป็นไฟต้องพระวรกายบาดเจ็บสาหัสประชวรหนักในวันนั้น วันรุ่งขึ้นพม่าเห็นท่าไม่ดีจึงเลิกทัพกลับไปทางเหนือ แต่ยังไม่ทันพ้นเมืองตาก พระเจ้าอะลองพญาก็สิ้นพระชนม์ระหว่างทาง

ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ ได้รับการบอกเล่าต่อกันมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้ในแต่ละวันจะมีผู้คนมากมายมากราบสักการะขอพร และชื่นชมความงดงามขององค์หลวงพ่อกันเป็นจำนวนมาก ใครมาที่วัดหน้าพระเมรุก็ต้องประทับใจเพราะองค์หลวงพ่อนั้นสวยงาม สมบูรณ์แบบทุกสัดส่วน หาพระพุทธรูปองค์ไหนเสมอเหมือนมิได้จริงๆค่ะ

ปล.เวลาเปิด-ปิดพระอุโบสถคือ 8.00 - 17.00 น. นะคะมากราบหลวงพ่อได้ทุกวันเลยค่ะ

 ติดตามพาไปวัดได้ที่ :

Facebook : https://www.facebook.com/papaiwatofficial
Instragram : https://www.instagram.com/papaiwatofficial
Twitter : https://twitter.com/papaiwatthai